Latest

The latest news from the Joomla! Team



สมาคมทนายความฯใช้43ล.ประกัน31แดงอีสาน

อีเมล พิมพ์ PDF

วันนี้ (20  มิ.ย.) นายนรินทร์พงศ์  จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย กล่าวถึง การยื่นคำร้องขอให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องขังในคดีอาญาที่เกิดจากความขัดแย้ง ทางการเมืองครั้งที่ 3 ว่า  วันนี้ทางสมาคมทนายความได้ยื่นคำร้องปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาที่ถูกคุมขังใน 4 จังหวัดทั้งหมด 31 คน คือ จ.มหาสารคาม 9 คน จ.อุดรธานี 5 คน จ. อุบลราชธานี 4 คน, และมุกดาหาร 13 คน ส่วนผู้ต้องขังที่อยู่ในเขตกรุงเทพฯ จะยื่นประกันตัวในสัปดาห์หน้า

ส่วนหลักทรัพย์ที่ใช้ประกันตัวนั้นเป็นหลักทรัพย์ที่ครม.อนุมัติให้กอง ทุนยุติธรรม  43,840,000 บาท  คาดว่าจะใช้วงเงินประกันตัวรายละ 6 แสน - 1.6ล้านบาท ตามความหนักเบาของคดี ทั้งนี้หากงบประมาณไม่เพียงพอ ทางสมาคมฯก็จะทำเรื่องขอเพิ่มต่อไป

สำหรับการประกันตัวของสมาคมฯครั้งนี้จะไม่ยื่นประกันตัว นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิ.ย.ในคดีหมิ่นเบื้องสูง เพราะนายสมยศมีฐานะดีอยู่แล้วและเคยยื่นเงินประกันตัวโดยใช้ทรัพย์ถึง 6 ล้านบาท แต่ศาลก็ไม่อนุญาตส่วนกรณีของของนายสุรชัย แซ่ด่าน ก็รับสารภาพและศาลพิพากษาไปแล้วจึงไม่ยื่นประกันตัว.

 

อุทยานฯรื้อรีสอร์ทรุกทับลานล็อตใหญ่ปลาย ก.ค.

อีเมล พิมพ์ PDF

วันนี้ (20 มิ.ย.)  นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่า นายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี และนายนุวรรต ลีลาพตะ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานฯทับลาน ได้รายงานผลการดำเนินคดีการบุกรุกพื้นที่อุทยานฯทับลาน ซึ่งคดีสิ้นสุดแล้วและสามารถรื้อถอนได้ 30 แห่ง ตนได้สั่งการให้เตรียมความพร้อมในเรื่องอุปกรณ์และกำลังเจ้าหน้าที่ชุดหน่วย เคลื่อนเร็ว 600 นาย จากทั่วประเทศ สำหรับรื้อถอนรีสอร์ทและบ้านพักตากอากาศครั้งนี้  เป็นครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่กรมอุทยานฯเคยดำเนินการมา คาดว่าจะเข้าไปรื้อถอนช่วงปลายเดือนก.ค.นี้ เนื่องจากช่วงปลายเดือนมิ.ย.นี้ที่จะรื้อยังเตรียมการไม่พร้อม ตนจะลง พื้นที่ด้วย โดยในล็อตนี้มีรีสอร์ทขนาดใหญ่ที่สุดรวมอยู่ด้วย คือ “บ้านทะเลหมอกรีสอร์ท” มูลค่าลงทุนกว่า 200 ล้าน บนเนื้อที่ 70 กว่าไร่ ขณะนี้เจ้าของรีสอร์ทได้ทำเรื่องขออุทธรณ์การรื้อถอนมาที่กรมอุทยานฯ จึงต้องใช้เวลาในการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ

นายดำรงค์ กล่าวอีกว่า ปัญหาบุกรุกพื้นที่อุทยานฯทับลาน มีความสำคัญมากเพราะเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่มรดกโลกกลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขา ใหญ่ ล่าสุดศูนย์มรดกโลกได้ส่งตัวแทนมาติดตามประเมินผลการดำเนินงาน โดยมีมติจาก คณะกรรมการมรดกโลกให้ต้องปฏิบัติตาม เช่น การแก้ปัญหาและติดตามการบุกรุกพื้นที่มรดกโลกอย่างใกล้ชิด ปรับปรุงแนวเขตที่เหมาะสม พิจารณาขยายผนวกพื้นที่มรดกโลกดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่บุกรุก ลดกิจกรรมการเลี้ยงปศุสัตว์ ลดผลกระทบจากการก่อสร้างเขื่อนห้วยโสมง การดำเนินการถนนสาย 304 เพื่อเชื่อมต่อผืนป่า

ทั้งนี้กรมอุทยานฯต้องรายงานผลการแก้ปัญหาเหล่านี้ให้ศูนย์มรดกโลกรับ ทราบในวันที่ 1 ก.พ.56  หากไม่สามารถปฏิบัติตามข้อมตินี้ได้ อาจนำพื้นที่มรดกโลกกลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่เข้าไปอยู่ในบัญชีมรดกโลกใน ภาวะอันตราย คิดว่าการแก้ปัญหาบุกรุกพื้นที่ทับลาน-วังน้ำเขียว ในช่วงที่ผ่านมาน่าจะแสดงให้คณะกรรมการมรดกโลกเห็นถึงความตั้งใจของประเทศ ไทย.

 

"เทพเทือก"ท้าพท.ฟ้องชี้อักษรย่อคนกลางผิดหมด

อีเมล พิมพ์ PDF

วันนี้ (20 มิ.ย.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์วิทยุคลื่น 101 กรณีพรรคเพื่อไทยขู่ฟ้องหมิ่นประมาทหลังเปิดเผยว่ามีการติดต่อให้พรรคประชา ธิปัตย์ร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยว่า เป็นเรื่องที่ดีขอให้ฟ้องได้เลยเพราะถือว่าทำตามกฎหมาย ดีกว่าให้เขาไปเผาบ้านเผาเมือง ส่วนที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ท้าสาบานกับตนที่วัดพระแก้วนั้น รู้สึกสังเวชและเวทนานายพร้อมพงศ์ น่าจะช่วยไปบอกนายใหญ่ให้มาสาบานแทนตน และไม่ต้องมายุ่งกับตน

นายสุเทพ กล่าวว่า ส่วนที่โพลระบุไม่เชื่อถือคำพูดของตนนั้น ตนไม่สนใจและจะเดินหน้าตั้งเวทีประชาชนต่อไป และสิ่งที่ทำไม่ได้ต้องการล้มรัฐบาล ไม่ได้หวังสร้างกระแสทางการเมือง ที่ออกมาพูดเพื่อส่งสัญญาณถึงพ.ต.ท.ทักษิณและเพื่อไทยว่าตนไม่เกี๊ยะเซี๊ยะ ด้วย และไม่ต้องมาเจรจาอีก ยืนยันว่าพรรคจะไม่หยุดต่อต้านรัฐธรรมนูญและกฎหมายล้างผิด รวมถึงต้องการตอบโต้เพราะคนเพื่อไทยและแกนนำคนเสื้อแดงกล่าวหาว่าการที่ตั้ง เวทีประชาชนเพื่อต้องการล้มรัฐบาล ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะตนเคารพกติกา เมื่อเลือกตั้งแพ้ก็เป็นฝ่ายค้าน ถ้าอยากเป็นรัฐบาล ป่านนี้คงรับข้อเสนอของพ.ต.ท.ทักษิณ ไปแล้ว จึงต้องการส่งสัญญาณถึงประชาชนว่าต้องร่วมกันสู้ได้แล้ว

นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ยืนยันว่าจะไม่เปิดเผยชื่อ 3 บุคคลที่มาล็อบบี้ให้ร่วมรัฐบาล แต่ที่เอ่ยชื่ออักษรย่อต่างๆถือเป็นกระบวนการของพรรคเพื่อไทยเท่านั้นและ ชื่อที่ปรากฎก็ไม่จริงแม้แต่คนเดียว สิ่งที่พรรคเพื่อไทยกำลังแก้และร่างรัฐธรรมนูญเพื่อให้เป็นไปตามที่ตัวเอง ต้องการ ถือเป็นเผด็จการรูปแบบใหม่ ถ้ายังจะใช้รูปแบบการปรองดองแบบนี้อีก อย่ามาปรองดองกับตนเพราะรู้เท่าทัน  ส่วนฉายาสุเทพ นาธานที่ได้มานั้น  ไม่ทำให้สะดุ้งสะเทือน แต่การที่เอากฎหมายปรองดองมาพูดเพื่อลบล้างความผิดให้พ.ต.ท.ทักษิณ เรายอมไม่ได้.

 

“มาร์ค”พบคอป.กว่า3ชม.แชร์ข้อเท็จจริงป้องกันความรุนแรง

อีเมล พิมพ์ PDF

วันนี้ (20 มิ.ย.) ที่สำนักงานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่ง ชาติ(คอป.) นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ  หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  พร้อมด้วยนายเกียรติ  สิทธีอมร  นายชวนนท์  อินทรโกมาลย์สุต และนายบัณฑิต  ศิริพันธ์  ทนายความพรรคประชาธิปัตย์  เดินทางเข้าพบนายคณิต  ณ นคร  ประธานคอป.  เข้าให้ข้อมูลทำข้อสรุปรายงานคอป.เพื่อนำเสนอต่อรัฐบาล

นายอภิสิทธิ์ เปิดเผยหลังเข้าให้ข้อมูลกับคอป.นานกว่า 3 ชั่วโมงว่า นายสมชาย  หอมลออ  กรรมการคอป.มีประเด็นซักถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อจะนำข้อมูลที่ได้ไป ศึกษาและประกอบการพิจารณาเสนอข้อเท็จจริงว่าหากมีเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกัน เกิดขึ้นอีกจะมีแนวทางในการแก้ไขและป้องกันปัญหาความรุนแรงอย่างไร

นายคณิต กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์เข้าให้ข้อมูลต่อคอป.ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรีที่รับผิดชอบกับ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนั้น แต่โดยมารยาทไม่ขอเปิดเผยว่ามีรายละเอียดอะไรบ้าง ส่วนข้อมูลที่ได้รับในวันนี้ยังไม่สามารถสรุปได้  คาดว่าต้องใช้ระยะเวลา แต่ยืนยันว่าจะเร่งให้เสร็จทันก่อนครบวาระ 2 ปี ทั้งนี้ในวันที่ 27 มิ.ย.จะประชุมคอป.ชุดใหญ่เพื่อติดตามความคืบหน้าของรายงานผลสรุปคอป.

ทั้งนี้การที่นายอภิสิทธิ์เดินทางเข้าพบไม่ใช่การเชิญจากคอป.เพราะไม่มี อำนาจ แต่นายอภิสิทธิ์ต้องการเข้ามาพูดคุย คอป.จึงทำหนังสือเชิญอย่างเป็นทางการในฐานะผู้ใหญ่ของบ้านเมือง โดยเป้าหมายของคอป.เป็นการค้นหาความจริงเพื่อให้เกิดการเรียนรู้รากเหง้าของ ปัญหาไม่ได้มีหน้าที่ตรวจสอบเพื่อชี้ผิดหรือชี้ถูกของฝ่ายใด จากข้อมูลที่คอป.รวบรวมได้เชื่อว่าความปรองดองจะเกิดขึ้นได้  นายอภิสิทธ์ได้นำเอกสารที่เคยให้การกับหลายหน่วยงาน เช่น คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ มามอบให้คอป.ประกอบการพิจารณาด้วย การที่นายอภิสิทธิ์เดินทางมาถือเป็นนิมิตรหมายที่ดีทำให้ความปรองดองเกิด ขึ้นได้.

 

มท.ห้ามอบจ.ใช้งบทำทีมบอลหวั่นผลประโยชน์ทับซ้อน

อีเมล พิมพ์ PDF

วันนี้ (20 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงมหาดไทยว่า นายวัลลภ พริ้งพงศ์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ทำหนังสือเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ที่ผ่านมา ถึงผวจ.ทุกจังหวัด เรื่องการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ หมวดเงินอุดหนุนเพื่อสนับสนุนการกีฬา โดยระบุว่า ด้วยสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ตรวจสอบการบริหารงบประมาณรายจ่าย หมวดเงินอุดหนุนขององค์การบริหารส่วนท้องถิ่น พบว่ามีการเบิกจ่ายเงินสนับสนุนสมาคมกีฬาจังหวัด ไม่เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ และหนังสือสั่งการของกระทรวงมหาดไทย

กระทรวงมหาดไทยพิจารณาแล้วเห็นว่าในการตั้งงบประมาณเพื่ออุดหนุนองค์กรภาค ประชาชน องค์กรที่จัดตั้งตามกฎหมายขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เงื่อนไขสำคัญคือ โครงการหรือกิจกรรมที่จะขอรับเงินอุดหนุน จะต้องอยู่ในอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและประชาชนในเขต พื้นที่ได้รับประโยชน์

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนธ.ค. 54 สตง.ได้ตรวจสอบการใช้งบอบจ.แห่งหนึ่งในปีงบประมาณ 2552-2554 พบว่านายกอบจ.อนุมัติและเบิกจ่ายเงินงบประมาณเพื่อสนับสนุนสมาคมกีฬาของ จังหวัดที่ตนเองเป็นนายกสมาคมและผู้จัดการทีมโดยนำเงินไปเป็นค่าใช้จ่ายใน การจัดแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพ ของสโมสร  โดยจัดกิจกรรมต่าง ๆ หลายต่อหลายครั้ง ซึ่งการปฏิบัติดังกล่าวจึงไม่ถูกต้องตามหนังสือกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 8 ม.ค. 53 เพราะเข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อน สตง.จึงให้นายกอบจ.ดังกล่าวนำเงิน 54 ล้านบาท ส่งคืนอบจ.และต่อมา นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส รองผู้ว่าสตง. รักษาการแทนผู้ว่าสตง. ได้ทำหนังสือถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย เมื่อเดือนธ.ค. 54 ให้กระทรวงมหาดไทยกำชับให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบริหารงบประมาณให้ถูก ต้องตามกฎหมาย จนทำให้นายวัลลภมีหนังสือดังกล่าวออกมา.

 


หน้า 1 จาก 4
ป้ายโฆษณา

รับต่อเติมบ้าน

รับติดตั้งจานดาวเที่ยม กล้องวงจรปิด

รับว่าความทั่วราชอาณาจักร

เนื้อโคขุนโพนยางคำ

Login Form


Polls

ปกติใช้คอมพิวเตอร์ for ?
 

Who's Online

เรามี 6 บุคคลทั่วไป ออนไลน์

Counter

จำนวนครั้งเปิดดูบทความ : 2550098